IQ EQ นักลงทุนมือใหม่

IQ+EQ สิ่งที่ “นักลงทุนมือใหม่” ต้องมี

3 min read  

ฉบับย่อ

  • นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว พวกเขามีคุณสมบัติทั้งในเรื่องของความรู้ความเชี่ยวชาญในการลงทุนบวกกับความสามารถในการควบคุมอารมณ์ความกลัว ความโลภได้ดี
  • สิ่งเหล่านี้ที่เรียกกันว่า IQ ความสามารถในการวิเคราะห์ธุรกิจและวิเคราะห์หุ้น กับ EQ ความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่หวั่นไหวเปลี่ยนแปลงไปตามตลาดหุ้นง่าย ๆ
  • ปู่บัฟเฟตต์ เป็นบุคคลตัวอย่างด้านการลงทุน ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนกับเรื่อง IQ+EQ และมีแนวทางการลงทุนที่ชัดเจน มีความเชื่อในการลงทุนในระยะยาว ที่ผ่านบทพิสูจน์มาแล้ว จนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ทำไมนักลงทุนบางคนถึงยังไม่ประสบความสำเร็จ ทั้ง ๆ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์หุ้น หรือจบการศึกษาด้านการเงินการลงทุนมาโดยเฉพาะ แต่ว่าทำไมลงทุนแล้วถึงยังขาดทุนหนัก นักลงทุนที่อยากประสบความสำเร็จในการลงทุนในระยะยาว สิ่งที่ต้องมีคือ ความฉลาดทางความคิด และความฉลาดทางอารมณ์ ในระดับที่ดีพอสมควร และนี่คือสิ่งที่ “นักลงทุนมือใหม่” ต้องมีเช่นกัน

นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว ไม่ใช่ความสำเร็จเพียงระยะสั้นชั่วครู่ชั่วคราว ทั้งนี้แล้วมักจะเป็นคนที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในหลาย ๆ ด้าน เช่น ทั้งในเรื่องของความมีเหตุผล ความคิดวิเคราะห์ และการรู้จักการควบคุมอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ได้ดี สิ่งเหล่านี้ที่เรียกกันว่า IQ + EQ นั่นเอง

“นักลงทุนมือใหม่” ต้องรู้จัก IQ EQ ในการลงทุน

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจนิยามความหมายของ IQ กับ EQ กันก่อน

IQ หรือ Intelligence Quotient หมายถึง ความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา การคิด การใช้เหตุผล การคำนวณ การเชื่อมโยง

EQ หรือ Emotional Quotient หมายถึง ความฉลาดทางอารมณ์เป็นความสามารถในการรับรู้และเข้าใจอารมณ์ทั้งของตัวเองและผู้อื่น ตลอดจนสามารถปรับหรือควบคุมได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์

IQ เป็นความฉลาดทางปัญญาหรือความคิดเป็นการวัดความสามารถทางการคิดวิเคราะห์ ความสามารถทางวิชาการ ความจำ การอ่านเขียน ซึ่งการพัฒนา IQ นั้นเกิดจาก 50% มาทางกรรมพันธุ์ และอีก 50% เกิดจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งคนที่มีความสามารถในการวิเคราะห์หุ้นและธุรกิจที่น่าสนใจลงทุน “นักลงทุนมือใหม่” ที่มี IQ ที่ดีควรที่จะเข้าใจธุรกิจทำมาค้าขายอะไร โมเดลธุรกิจเป็นอย่างไร มีรายได้หลักมาจากอะไร และสามารถวิเคราะห์ฐานะการเงินของบริษัทได้ด้วยตนเอง เพื่อให้รู้ถึงผลการดำเนินงานในแต่ละปีว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร ผู้ที่มี IQ สูง ๆ มักจะคำนวณตัวเลขต่าง ๆ ได้ดี และมักจะชอบวิเคราะห์ประเมินมูลค่าหุ้นด้วยตนเอง

ตัวเลขที่ใช้ประเมินมูลค่าหุ้นที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่ P/E ซึ่งมาจาก ราคาหุ้น หารด้วย กำไรต่อหุ้น เพื่อให้รู้ว่า นักลงทุนยอมจ่ายเงินซื้อหุ้นในขณะนั้นเป็นกี่เท่าของกำไรต่อหุ้น กับ P/BV โดยมาจาก ราคาหุ้น หารด้วย มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น  เพื่อเทียบว่า ราคาหุ้นในขณะนั้นสูงเป็นกี่เท่าของมูลค่าทางบัญชี

อัตราส่วนทั้ง 2 นี้ ยิ่งมีค่าน้อยจะยิ่งดี เพราะแสดงว่า นักลงทุนซื้อหุ้นที่ไม่ได้มูลค่าสูงจนเกินไป อย่าลืมไปเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงเทียบกับค่า P/E P/BV โดยเฉลี่ยย้อนหลังของหุ้นตัวนั้น ๆ ประกอบกันไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หุ้นที่มีค่า P/E P/BV ต่ำมาก ๆ ไม่ได้ความหมายว่าจะดีเสมอไป เป็นไปได้ว่าธุรกิจอาจจะมีกำไรพิเศษหรือเป็นสินค้าในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ราคาสินค้าขึ้นลงเป็นไปตามราคาตลาดโลก

ใครที่อยากพัฒนา IQ เพิ่มเติม วิธีการไม่ยาก อย่าลืมว่า 50% มาจากพรแสวงหรือสิ่งแวดล้อม พี่ทุยยังพัฒนา IQ ได้เลย มีวิธีการต่าง ๆ มากมาย เช่น การอ่านหนังสือเว็บไซต์ต่าง ๆ เพิ่มเติม ฟังข้อมูลความรู้จากผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จมาจริง หรือลงเรียนศึกษาเพิ่มเฉพาะเจาะจง และนำมาฝึกคิดวิเคราะห์ด้วยตนเอง ซึ่งการพัฒนา IQ เป็นการทำงานเหมือนได้ใช้สมองในการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ทำให้ได้ฝึกกระบวนการคิด ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ดี รวมทั้งการคิดในแง่ดี การคิดเชิงสร้างสรรค์ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนได้เป็นอย่างดี

รู้หรือไม่ว่า.. ยังมีสิ่งสำคัญกว่า IQ 

คนเก่งจะไม่ได้มีแค่ IQ สูง ๆ แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะไม่เช่นงั้นแล้ว นักวิเคราะห์หุ้น คุณหมอ วิศวกรหรืออาชีพต่าง ๆ ที่เรียนเก่ง ก็จะต้องประสบความสำเร็จในการเงินการลงทุนกันไปหมดแล้ว แต่สิ่งที่ต้องมีมากกว่า คือ EQ ซึ่งเป็นความฉลาดทางด้านอารมณ์ การรับรู้และควบคุมอารมณ์ของตนเองให้ได้ สามารถควบคุมหรือระงับอารมณ์ของตนเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ มีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างดี มีความกระตือรือร้นพร้อมที่จะเรียนรู้อยู่เสมอ คล่องแคล่ว ว่องไว มุ่งมั่น ตั้งใจทำ ไม่ย่อท้อหรือลดละความพยายามเมื่อมีอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้น

เห็นได้ว่า EQ เป็นสิ่งที่นักลงทุนมักไม่ค่อยให้ความสำคัญ ไม่ค่อยมีการเรียนการสอน ไม่ค่อยมีการพูดถึงกันนัก ยิ่งในตลาดหุ้นไทย ที่นักลงทุนส่วนใหญ่เป็นรายย่อย มองการลงทุนกลายไปเป็นการเก็งกำไรหรือที่นิยมเรียกว่า เล่นหุ้น ! ซึ่งการลงทุนหุ้นกับการเล่นหุ้น มีความหมายแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เรียกได้ว่า EQ เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการลงทุนได้ดี การรู้จักควบคุมความกลัวความโลภ ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งยั่วยวนในตลาดหุ้น นำพามาซึ่งความเสี่ยง นักเก็งกำไรหลายคนที่ตอนแรกประสบความสำเร็จ เนื่องจากยังมีเงินต้นยังไม่เยอะ แต่พอมีเงินทุนเยอะขึ้นแล้วเกิดความโลภ ทำให้ขาดสติขาดความสามารถในการควบคุมอารมณ์จิตใจ หรือความอดทนต่ำ ใจร้อน อยากได้กำไรเร็ว ๆ นี่ก็ถือเป็นคุณสมบัติที่แสดงถึงการขาด EQ ในการลงทุน

ในเรื่องของ EQ อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งจะเห็นผลได้ในระยะยาว ในเรื่องของความเชื่อในการลงทุน ถ้าเป็นนักลงทุนแนว VI ต้องมีความเชื่อในการลงทุนระยะยาว เมื่อเลือกหุ้นดี ในราคาที่ถูกแล้ว ให้โฟกัสไปในอนาคต ไม่หวั่นไหวต่อราคาหุ้นที่สามารถผันผวนได้ในระยะสั้น

ยกตัวอย่างที่ชัดเจน ปรมาจารย์หุ้นอย่าง ปู่บัฟเฟตต์ ไม่ต้องพูดเยอะ เจ็บคอ ! ว่าปู่บัฟเฟตต์สำเร็จมามากมายเพียงไหน เป็นคนที่เชื่อในหลักการของ Value Investing และศึกษาเรียนรู้และปฎิบัติปรับใช้ให้เหมาะสมกับสไตล์ของปู่บัฟเฟตต์ ผ่านมาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี จนพิสูจน์มาให้เห็นว่า แนวคิดการลงทุนของปู่บัฟเฟตต์ประสบความสำเร็จจนมาถึงทุกวันนี้ ปู่บัฟเฟตต์เป็นตัวอย่างของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่มีคุณสมบัติทั้งในเรื่องของ IQ+EQ

ในเรื่อง IQ ไม่ต้องพูดถึง ปู่บัฟเฟตต์จบการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ส่วนในเรื่องของ EQ ปู่บัฟเฟตต์ผ่านเหตุการณ์ช่วงวิกฤตมาแล้วมากมายตลอดอายุ แล้วยังสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ในช่วงนั้นปู่ได้เลือกหุ้นดีในราคาที่ถูกมีส่วนเผื่อความปลอดภัย (Margin of safety) จนหุ้นเหล่านั้นพลิกกลับมาเติบโตสร้างพอร์ตให้มีความมั่งคั่งได้ในระยะยาว ตลอดชีวิตของปู่บัฟเฟตต์ยืดอาชีพเดียว คือ การเป็นนักลงทุนมืออาชีพ

สิ่งสำคัญ ถ้าอยากจะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ สิ่งที่ต้องมีคือ การพัฒนาทักษะด้าน IQ + EQ ที่ต้องไปควบคู่กัน จะมีแต่อย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่เพียงพอ เพราะการลงทุนต้องมีทั้งใช้ข้อมูลความรู้ ประสบการณ์ ในการวิเคราะห์ต่าง ๆ และยังต้องรู้จักการควบคุมอารมณ์ ความกลัว-ความโลภ และการตัดสินใจโดยใช้เหตุและผล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เราสำเร็จในเรื่องการลงทุน ทำให้เราเป็นคนฉลาดคิด และฉลาดทางอารมณ์

สุดท้าย พี่ทุยหวังว่าบทความนี้ จะให้ทุกคนนำไปต่อยอดเพื่อปรับใช้ในการลงทุนและยังใช้ในการดำเนินชีวิตได้ด้วยต่อไปนะ 

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย